หนอเคยต้องทำรายงานเรื่องการเขียน
“จดหมายรัก”
ใช่แล้วค่ะ...
เขียนจดหมายรักส่งอาจารย์
แต่ก่อนจะงงไปมากกว่านี้
ขอหนออธิบายเพิ่มเติม
วิชาที่ว่านี้เป็นวิชาแนว
Post-modern
และโจทย์ข้อที่ทำเป็นประมาณว่า...
สิ่งต่างๆ
ล้วนถูกทำซ้ำขึ้นทั้งสิ้น
There
is no originality.
คำพูดของเราล้วนเคยเป็นของคนอื่นมาก่อน
เพราะฉะนั้นจง
Quote หนังต่างๆ แล้วร้อยเรียงเป็นจดหมาย
ถ้าใจความไม่ครบก็ให้เสริมแต่งคำเข้าไปเองบ้างตามสมควร
น่าเสียดายมาก
หนอยังหารายงานฉบับนั้นไม่เจอ
แต่เท่าที่จำได้
มันทำให้ต้องดูหนังไปร้อยกว่าเรื่อง
ต้องหาร้านเช่า
DVD แถวบ้าน แล้วสมัครสมาชิกไว้เลย
ช่วงนั้นดูหนังวันละสามสี่เรื่อง
พร้อมกับพิมพ์บทสนทนาไปด้วย
สุดท้าย
จบลงที่รายงานที่มีเชิงอรรถประมาณ 200 รายการ
และสุดท้าย...
สุดท้ายจริงๆ ก็ไม่ได้ A…
(ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
คำพูดของเราล้วนเคยเป็นของคนอื่นมาก่อน
หลายอย่างถูกทำซ้ำจนเราหาต้นตอที่แท้จริงไม่ได้
สิ่งที่เราพูดล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราเคยฟังมา
ใครๆ
ก็บอกรักกันด้วยคำรักที่เขาเคยได้ยิน
เพราะคำรักมีอยู่ทุกที่
เพราะ
Love is all
around
เพราะความรักเป็นสิ่งที่แทรกตัวอยู่ในทุกสถานการณ์
หนังทุกเรื่องต่างก็มีประเด็นความรักอยู่
ไม่มากก็น้อย
หนอชอบดูหนังค่ะ
แต่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่คนที่ดูได้ทุกประเภท
ประเภทที่ไม่ค่อยได้ดูคือหนังสยองขวัญ
แต่ถึงอย่างนั้นก็พอดูได้
เคยคิดว่าตัวเองเปิดรับหนังทุกประเภท
ทั้งในและนอกกระแส
จนกระทั่งมาเจอหนังที่คณะ
(รัฐศาสตร์ จุฬาฯ) บังคับดู
ไม่เชิงบังคับหรอกค่ะ
มันเป็นวิชาเลือกของภาควิชา
หนังหลายเรื่องต้องจัดว่า
“เกินทน”
ทีเดียวนะคะ
ก่อนที่จะฉายให้นิสิตดู
อาจารย์จะพูดว่า
“พวกคุณเดินออกจากห้องได้ทุกเมื่อนะ”
แล้วหลายคนก็ต้องเดินออกจริงๆ
แต่ดูเสร็จแล้วก็ต้องมาหาประเด็น
มาวิพากษ์กันต่อ ตรงนี้สนุก
ที่เกริ่นมาทั้งหมดนี่หนอต้องการจะเขียนเรื่องหนังค่ะ
ในเมื่อ
“ความรักมีอยู่ทุกที่”
จริง เราก็น่าจะเห็นมันในหนังทุกเรื่อง
หนอว่าหนอเป็นคนที่ค่อนข้างเย็นชา
ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับหนังโรแมนติกเท่าไร
หนังที่ชอบดูจริงๆ
จะเป็นหนังสงครามไปเลย
หนังรักโรแมนติกนี่จริงๆ
ก็ชอบดูนะคะ
แต่
“ระดับ”
ของการซาบซึ้งใจจะต่ำกว่าคนอื่น
เช่น
ถ้าคนอื่นฟูมฟาย หนอคงแค่น้ำตาซึม
ถ้าคนอื่นน้ำตาซึม
หนอคงแค่ตึงๆ
หนอเป็นคนหน้าเฉยด้วยแหละ
ไม่ค่อยแสดงอารมณ์
(ซึ่งหลังๆ
มาพยายามแสดงอารมณ์บ้างแล้ว เอาใจคนรอบข้าง)
ถึงกระนั้น
หนอกลับพบความโรแมนติกในหนังที่ไม่ควรจะโรแมนติก
และหนอก็กลับซาบซึ้งกับความรักเล็กๆ
น้อยๆ แบบนั้น
ทั้งที่หนังไม่ได้ปูมาให้สวยงามขนาดนั้นเสียหน่อย
The
Raven เป็นหนัง Thriller ที่เข้าเมื่อปีที่แล้ว
(2012)
นักวิจารณ์หนังต่างพากันให้คะแนนแบบต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
แต่หนอก็ไปดูอยู่ดี
เพราะเป็นเรื่องราวของ Edgar
Allan Poe
เนื้อเรื่องวางให้ตัวเอกไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม
ทำให้เขาต้องช่วยสืบหาฆาตกรต่อเนื่องรายนี้
และเหยื่อรายสุดท้ายที่หายตัวไปก็คือ
คนรักของ Poe เอง
ฉากท้ายๆ
ของเรื่อง Poe เผชิญหน้ากับผู้ร้าย
โดยที่คนรักของเขาถูกจับตัวไปนานมากแล้ว
อาจจะยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วก็ไม่ทราบได้
Poe ถือปืนอยู่ในมือ และสามารถฆ่าอีกฝ่ายตรงนั้น
แต่กลับดึงตัวเองเข้าไปอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขามีทางเลือกอยู่ไม่กี่ทาง
แล้วเขาก็เลือกทางที่ถ้าเป็นหนอคงไม่ทำ
ซึ่ง
Scene ต่อจากนั้นทำให้หนอนั่งร้องไห้ในโรงอย่างน่าประหลาด
ร้องไปก็คิดไปพลางว่า
“นี่กูร้องไห้ทำไม?
นี่มันหนัง Thriller นะ”
ช่างเป็นความโรแมนติกที่ไม่ตรงกับ
Genre หนังเอาเสียเลย
หนอไม่ทราบว่าคอหนังดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง
แต่หนอเป็นคนไม่ค่อยอ่าน
Review เท่าไร และชอบหนังเรื่องนี้
ที่ชอบที่สุดก็คือความโรแมนติกเล็กๆ
น้อยๆ ที่ทำให้รู้สึกกับมันได้มากมาย
หนังทุกเรื่องมี
“ความรัก”
อยู่ในองค์ประกอบเสมอ
แต่ความรักลักษณะไหนจะกระทบจิตใจคนดูคนไหนบ้าง
นั่นเป็นอีกเรื่อง
ความรัก
- ความโรแมนติกเป็นสิ่งที่มาเติมเต็มให้หนังดู “สมจริง” มากขึ้น
นั่นคือ
ในชีวิตจริง ความรักก็เป็นสิ่งที่แทรกอยู่ในทุกอณูเหมือนกัน
ชีวิตคนทุกคนมี
“ความรัก”
อยู่ในองค์ประกอบเสมอ
แต่ความรักลักษณะไหนจะกระทบจิตใจใครบ้าง
นั่นเป็นอีกเรื่อง
Love
is in the air.
Love
is here, there and everywhere.
บทความนี้โรแมนติกค่ะ >//<
ReplyDeleteขนาดนั้นเชียว ไม่หรอกกก...
Delete