คนบางคนต้องให้อยู่ไกลๆ
นะ
ต้องเว้นที่ว่าง
เว้นระยะเอาไว้
แม้ว่าเราจะรักเขามากก็ตาม
เพราะว่าอยู่ด้วยกันเมื่อไรก็มีแต่เรื่องให้ไม่ลงรอยกัน
เคยเจอคนแบบนี้กันไหมคะ?
เรารักเขามาก
และเขาก็รักเรามาก
แต่ทั้งสองฝ่ายกลับไม่เคยเข้าใจกัน
หรือพอจะเข้าใจบ้าง
แต่ก็ไม่ทั้งหมด
หรือคิดไปเองว่าเข้าใจ
แต่จริงๆ เปล่า
“ทำความเข้าใจ” หรือ “ปรับความเข้าใจ”
ได้ผลทุกครั้งไหม?
หนอคิดมาตลอดว่าการสื่อสารระหว่างกันแก้ได้ทุกอย่าง
จนวันนี้ก็ยังคิดเช่นนั้นอยู่
เพียงแต่ว่ามันใช้ไม่ได้กับทุกคน
การเปิดใจคุยไม่มีทางได้ผลหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เปิดใจ
บางคนคิดไปว่าตัวเองเปิดใจแล้ว
แต่ไม่ได้เปิด ไม่เคยเปิด
บางคนเรียกร้องหาบทสนทนาโดยที่ใจทนรับฟังบางสิ่งไม่ได้
บางคนเปิดโอกาสให้อธิบายทั้งที่ใจตัดสินแล้วว่าอีกฝ่ายผิด
แล้วมันจะได้อะไร?
หนอโตมาในบ้านที่แม่เป็นฝ่ายอบรมสั่งสอนลูกๆ
สองคน
ด้วยเชื่อว่าการที่ทั้งพ่อทั้งแม่ต่างคนต่างสอนจะขัดกันเอง
กฎอย่างหนึ่งของบ้านที่ไม่เคยมีเคยกำหนดแต่ต่างก็รู้กันคือ...
“แม่ไม่เคยผิด”
สมาชิกในครอบครัวหนอไม่มีใครมีนิสัยเหมือนกันเลย
ไม่มีใครมีความคิดความเห็นและการโต้ตอบต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนกันเลย
(ในบางความเชื่ออาจอธิบายได้ว่าเป็นเพราะไม่มีใครมีกรุ๊ปเลือดเหมือนกันเลย)
พอถึงวันที่ลูกๆ
มีความคิดเป็นของตัวเอง และแตกต่างจากความคิดของแม่
ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราทั้งหมดจะผิดใจกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เป็นปัญหายืดเยื้อเรื้อรัง
หนอเคยเปิดใจพูดคุยตรงๆ
เพราะหนอเป็นคนแบบนั้น
แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่เกิดผลใดใดในทางที่ดี
หนอเคยคิดว่าเราคงต้องอยู่กันไปแบบนี้
ไม่มีทางแก้อะไรได้
จนกระทั่งแม่ออกจากบ้าน...
ถึงตอนนี้
เป็นเวลา 6-7 ปีแล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ดูเหมือนจะน่าเศร้า
แต่กลายเป็นว่าการที่ต่างคนต่างอยู่ทำให้มีความสุขอย่างน่าประหลาด
เราติดต่อกันเป็นประจำ
แต่เราใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง
ช่วงเวลาที่เจอกันไม่ยาวนาน
แต่เต็มไปด้วยความคิดถึงและความหวังดี
สรุปว่าเรารักกันแต่ไม่ควรอยู่ด้วยกันสินะ
เราควรเว้นที่ว่างให้เป็นตัวของตัวเองกันสินะ
เราควรเว้นระยะไว้เพื่อไม่ต้องเผชิญหน้ากันสินะ
ไม่เจอก็ไม่กระทบกระทั่ง
ไม่กระทบกระทั่งก็ไม่ทุกข์
คนทุกคนควรจัดระเบียบชีวิตให้มีความทุกข์น้อยลงนะคะ
วิธีหนึ่งอาจจะทำได้ด้วยการจัดพื้นที่ให้คนที่คุณรักก็ได้
จัดว่าใครเป็นอย่างไรควรอยู่ที่ไหน
เพื่อให้ต่างคนต่างมีความสุข
แล้วเราทุกคนก็จะมี
“ระยะสุขใจ”
เป็นของตัวเอง
อบอุ่น
ReplyDeleteปล.ทุกเรื่องแต่เพิ่งจะคอมเม้นท์
:)
Deleteระยะห่าง หรือช่องว่าง ก็คงเหมือนๆ อุปกรณ์ซ่อมรถ ต้องใช้เฉพาะทาง เฉพาะเหตุการณ์มั้งเน้อ
ReplyDeleteบางทีก็มีไว้ให้นิ่ง สงบ ตั้งสติกัน
บางทีก็มีไว้ให้การจัดระเบียบความสัมพันธ์
บางทีก็มีไว้ให้สำหรับการตัดสินใจ
พอเราโตขึ้นเรื่อยๆ ความสำคัญของช่องว่างก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
และพื้นที่ระหว่างช่องว่างนั้นก็สำคัญมากเช่นกัน
^^
รอคอยวันที่ช่องนั้นจะมีมากขึ้นและสำคัญมากขึ้นอยู่ค่ะ
ReplyDeleteรอคอยด้วยใจจดจ่อ :)