พอฝนตกทุกวันแบบนี้
หนอก็อดนึกถึงเรื่องต่างๆ
ที่เกิดขึ้นในวันฝนตกอื่นๆ
ที่ผ่านมาแล้วไม่ได้
แม้อากาศจะไม่เป็นใจ
ชีวิตก็มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นได้
มีนาคม
2008 หนอบินไปเกาหลีเพื่อเรียนภาษา
1 สัปดาห์หลังวันที่เครื่องลงแตะแผ่นดินเกาหลี
หนอยืนเข้าแถวรอเข้าคอนเสิร์ตของศิลปินกลุ่มหนึ่ง
ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะหมดไป
ฝนแรกของปีโผล่มาทักทาย
แน่นอนว่าหนอยังสื่อสารอะไรไม่ได้มาก
ได้แต่ยืนนิ่งๆ
เพื่อนๆ
คนไทยที่บินไปเพื่อดูคอนเสิร์ตอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
ที่นั่งพวกเราอยู่คนละโซน
หนอจึงต่อคิวอยู่ตรงนั้นคนเดียว
ฝนยังคงตกต่อไปเรื่อยๆ
ลมยังคงพัดต่อไปเรื่อยๆ
อากาศยังคงหนาวลงเรื่อยๆ
หนอยังคงยืนสั่นเรื่อยๆ
แฟนเพลงเกาหลีที่เข้าคิวอยู่ด้านหน้าหนอหันมา
เธอดึงมือหนอเข้าไปใต้ร่ม
ร่มที่ไม่ได้กว้างใหญ่อะไร
ถ้าเทียบกับหัวจิตหัวใจที่กว้างใหญ่ของเธอแล้ว
เธอไม่ได้พูดอะไรสักคำ
คงเห็นว่าหนอเป็นต่างชาติ
ฝนตกลมแรงขนาดนั้น
ไม่มีใครไม่เปียก
กระนั้นเธอก็ยังพยายามจะทำให้หนอเปียกน้อยที่สุด
เราพูดคนละภาษา
แต่คำพูดไม่ได้จำเป็นเลย
สิ่งที่ดูเหมือนจะเชื่อมโยงเราเข้าหากัน
คือความชอบในศิลปินกลุ่มเดียวกันกระมัง
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด
เธอก็ใจดีมาก
เป็นความประทับแรกในประเทศเกาหลี
แม้จะผิดหวังกับสภาพอากาศบ้าง
ที่เล่ามาทั้งหมดนี่
หนอหวังว่าทุกคนจะเจอแบบเดียวกัน
ความประทับใจเล็กๆ
แบบเดียวกัน
เราหลีกเลี่ยงฟ้าฝนลมแดดไม่ได้หรอกค่ะ
ทำได้แค่หาอะไรฆ่าเวลา
ขณะที่ฟ้าฝนลมแดดนั้นกำลังผ่านตัวเราไป
มองไปรอบตัวดูสิคะ
ถึงสภาพอากาศจะไม่เป็นใจขนาดไหน
ชีวิตก็มีเรื่องดีๆ
เกิดขึ้นได้เสมอ
อมยิ้ม
ReplyDeleteวันนั้นดีใจมาก ทั้งที่ปกติคนเกาหลีตามท้องถนนกรุงโซลออกจะเฉยๆ กับคนแปลกหน้า (ยิ่งต่างชาติด้วยยิ่งแล้วใหญ่)
Delete