"It's easy to be kind, and smiling, and sweet
when you're beautiful and rich.
But when you're only a maid?
The best you can do is to give yourself airs
while you're doing the cleaning or washing up."
--------------------
ท่ามกลางลิสต์ละครเวทีมากมายที่เล่นอยู่ในย่าน West End จะมีอยู่บางเรื่องที่ใช้นักแสดงชื่อดังเป็นจุดขาย แน่นอนว่าบทละครต้องดีพอจะดึงดูดผู้ชมอยู่แล้ว แต่การได้นักแสดงที่ผู้คนรู้จักจะยิ่งทำให้โปรดักชันนั้น ๆ โดดเด่นเป็นที่สนใจยิ่งขึ้น
สำหรับหนอ The Maids เป็นละครเวทีเรื่องนั้น และด้วยการกำกับของอัจฉริยบุคคลแห่งวงการละครเวทีอังกฤษอย่าง เจมี ลอยด์ (Jamie Lloyd) แล้ว มีแต่จะทำให้การแสดงของ อูโซ อาดูบา (Uzo Aduba) จาก Orange Is the New Black ทรงพลังขึ้นกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ เคยมีนักแสดงชื่อดังรับบทสาวใช้ใน The Maids มาแล้ว นั่นก็คือ "เจ้าป้า" เคต บลานเชตต์ (Cate Blanchett) ในโปรดักชันของออสเตรเลีย ที่คราวนั้นใช้นักแสดงผิวขาวล้วน แต่มาคราวนี้โปรดักชันของ The Jamie Lloyd Company เลือกที่จะใช้นักแสดงผิวสี 2 คน เป็นสาวใช้ ขณะที่บทเจ้านายตกเป็นของนักแสดงผิวขาวจาก Downton Abbey - ลอรา คาร์ไมเคิล (Laura Carmichael)
The Maids เป็นผลงานการเขียนบทของ ฌอง เชเนต์ (Jean Genet) ถูกนำมาเล่นครั้งแรกเมื่อปี 1947 และทำเป็นหนังเมื่อปี 1974 ซึ่งความเข้มข้นอยู่ตรงที่ทั้งเรื่องมีตัวละครแค่ 3 ตัว และในโปรดักชันล่าสุดนี้ การทำเวทีให้เปิดโล่ง 360 องศา ไม่มีม่านปิดกั้นใด ๆ ระหว่างผู้เล่นและผู้ชม ก็ยิ่งทำให้ The Maids เวอร์ชันนี้น่าสนใจขึ้นไปอีก
Trafalgar Studios ตั้งอยู่บนถนน Whitehall ซึ่งแต่เดิมก็เคยใช้ชื่อโรงละครตามชื่อถนนด้วย (Whitehall Theatre) จนกระทั่งมาเปลี่ยนเมื่อปี 2004 หลังจากที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 1930
โรงละครของที่นี่แบ่งออกเป็น Studio 1 (380 ที่นั่ง - เล็กมาก) และ Studio 2 (100 ที่นั่ง - เล็กยิ่งกว่า) ภายในแต่ละห้องมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้ตอนเข้าไปนั่งรู้สึกอึดอัดกว่าปกติ แต่ก็ให้บรรยากาศอินดี้ไปอีกแบบ ยิ่งพอเห็นเวทีเปิดโล้นโล่งเตียนด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังจะได้ดูต้องมีความเปล่าเปลือยทางอารมณ์สูงมากแน่ ๆ ... ต้องดิบ ต้องถึงแก่น ต้องเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ อะไรงี้
The Maids เปิดเรื่องมาที่สาวใช้ทั้งสองกำลังเล่นบทบาทสมมุติขณะที่เจ้านายไม่อยู่บ้าน ซึ่งบทบาทสมมุติที่ว่านี่คือการนินทานั่นแหละ นินทาและแสดงความเกลียดชังและวางแผนฆ่าไปด้วยในที แต่การจะฆ่าคนคนหนึ่งมันง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ? แล้วชีวิตมันย่ำแย่ขนาดไหนถึงต้องใช้การตายของใครสักคนเป็นทางออก?
บทสนทนาที่แหลมคมค่อย ๆ เผยถึงชีวิตของเธอทั้งคู่ รวมถึงลักษณะของเจ้านายสาวที่ยังไม่ปรากฏตัวในฉากด้วย ที่น่าสนใจมากคือ การที่ผู้ชมได้นั่งอยู่รอบเวที มองเห็นทุกอิริยาบถของนักแสดง ทำให้ทีมงานต้องซ่อน "พร็อพ" ไว้ใต้พื้นเวที แล้วให้นักแสดงค่อย ๆ เปิดพื้น-หยิบพร็อพ-เก็บพร็อพกันอย่างแนบเนียนที่สุด ดูแล้วรู้สึกว่าการบล็อกกิ้ง (จัดวางตำแหน่ง) น่าจะยากกว่าการจำบทเสียอีก
ความหดหู่และกดดันเป็นสิ่งที่คาดหวังได้จากละครเวทีเรื่องนี้ คือดูแล้วรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจอยู่บ่อยครั้ง ไม่แนะนำให้ดูมากกว่าหนึ่งครั้ง ชีวิตคนเราไม่ได้ต้องการรับรู้ความรู้สึกแบบนี้บ่อย ๆ
อย่างไรก็ดี The Maids มีจุดเด่นตรงการบอกเล่าอย่างมีศิลปะ การออกแบบเวที และการจัดแสงได้อย่างยอดเยี่ยม เหนือสิ่งอื่นใด อูโซ อาดูบา และ ซอว์ แอชตัน (Zawe Ashton) เล่นฟาดกันไปมาได้แบบไม่มีใครยอมใคร รับส่งกันได้อย่างลงตัวสุด ๆ ทำให้แม้เนื้อเรื่องจะน่าอึดอัดขนาดไหน ก็ไม่สามารถละสายตาจากทั้งคู่ได้เลย
--------------------
"มันง่ายที่จะใจดี ยิ้มแย้ม และอ่อนหวาน
เมื่อคุณทั้งสวยและร่ำรวย
แต่เมื่อคุณเป็นแค่สาวใช้ล่ะ?
ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ก็คือปั้นหน้าเป็นผู้ดี
ระหว่างที่ปัดกวาดเช็ดถูให้เขานั่นแหละ"
เพื่อหลีกหนีจากชีวิตที่สุดจะทนนี้
พวกเธอจะลงทุนฆ่าเจ้านายหรือไม่
ด้วยวิธีไหน ลงมือเมื่อไร
แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะสำเร็จ
--------------------
The Maids แสดงถึงวันที่ 21 พฤษภาคมนี้เท่านั้น
อยากดู
ReplyDeleteแต่แกจะไม่รู้เรื่อง เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับบท การเคลื่อนไหวของนักแสดงไม่ช่วยให้เข้าใจบริบทเพิ่มขึ้นเลย จะงงกว่าเดิมซะอีก (สำหรับคนต่างชาติที่ไม่ได้พูดอังกฤษเป็นภาษาแรกน่ะนะ) 5555 นี่ดูไปก็เกร็งไป ต้องตั้งใจมาก
Deleteสัมผัสได้ถึงความน่าอึดอัดผ่านภาพประกอบ
ReplyDeleteแล้วคือโรงเล็กมาก มีความเข่าชน 5555 นั่งดูไปก็หายใจไม่ออกไป
Delete