June 25, 2014

สัญญาณลวง

หลายคนรู้จักคำว่า "สัญญาณลวง" หรือ false alarm ดี
มันหมายความถึง การเตือนโดยที่ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง
ซึ่งมักจะใช้ในการเฝ้าระวังการบุกรุกหรือเหตุอันตรายบางอย่าง

ความรักก็เป็นสิ่งที่อันตรายเหมือนกันนะ
มันดูจู่โจม มันดูกะทันหัน
และบางทีเราก็ไม่ทันระวังตัว

ทีนี้ ความรักมีสัญญาณเตือนบ้างไหมล่ะ?
บางครั้งมันก็มีอยู่นะ
ปัญหาก็คือ สัญญาณเตือนที่ว่านั้น จริงแค่ไหน?

ถ้าถามหนอว่า รักแรกพบมีจริงหรือเปล่า?
หนอจะตอบว่า ก็คงมีจริงนั่นแหละ
จะยืนยันชัดเจนก็ไม่ได้เต็มปาก

เอาเป็นว่า ไม่มีใครรู้ชะตาชีวิตตัวเองหรอก
แต่เท่าที่เห็นและเป็นมา
หนอเชื่อว่ามันมีอยู่จริง

มันติดอยู่ที่ว่า บางครั้ง... แค่บางครั้งน่ะนะ
มัน "จริง" เพียงชั่วครู่
ไม่ก็ "จริง" เพียงข้างเดียว

เหล่านี้ หนอรวมเรียกมันว่า
"สัญญาณลวง"
หรือ false alarm

อาการรักแรกพบเป็นสัญญาณอย่างหนึ่ง
คือเป็นสิ่งที่เตือนให้รับรู้การมีอยู่ของคนบางคน
ซึ่งบางครั้งเราก็เรียกมันอย่างกิ๊บเก๋ว่า "สปาร์ก"

'เจอครั้งแรกก็ "สปาร์ก" เลย' เป็นต้น
ประเด็นก็คือ 1. อีกฝ่ายสปาร์กด้วยไหม?
2. สปาร์กแล้วสานต่อได้หรือเปล่า?

รักแรกพบหลายกรณีสามารถสานต่อได้จริง
ซึ่งพอมาไล่เรียงเหตุการณ์จะเห็นว่ามันโรแมนติก
ดูพระเจ้าสร้างมา ดูเบื้องบนกำหนด

และเพราะมันโรแมนติก
หลายคนจึงไม่ยอมปล่อยความรักนี้ไป
แม้ว่ามันถึงวันที่ต้องจบลง

หลายคนแย้งว่ารักแรกพบเป็นรักแท้
ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ว่ามันไม่ควรต้องจบสิ้นลง
เพราะเป็นรักแรกพบ... เพราะเป็นรักแท้...

รักแรกพบเป็นรักแท้หรือเปล่า?
อาจจะเป็น
อาจจะไม่เป็น

ต่อให้เป็นรักแท้ ก็ไม่จำเป็นต้องยั่งยืน
หนอเชื่อว่า รักแท้ไม่จำเป็นต้องคงอยู่ชั่วชีวิต
และไม่จำเป็นต้องมีเพียงครั้งเดียว

ที่พูดอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องมีความรักหลายครั้ง
คนจำนวนมากมีรักแรกพบ ที่เป็นรักแท้ จะคงอยู่ชั่วชีวิต
ซึ่งนั่นคงเป็นความรู้สึกที่ดี และคนเหล่านั้นเป็นคนโชคดี

เพียงแต่ว่า โชคดีไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนในโลก
และหนอกำลังบอกว่า หลายคนกำลังยึดติดกับบางตรรกะมากเกินไป
ทั้ง "รักแรกพบ" และ "รักแท้" จนละเลยที่จะให้ความสำคัญกับตัวเอง

หลายอย่างเกิดขึ้น และเปลี่ยนไป และจบลงค่ะ
ความรักก็เช่นกัน ไม่ว่าจะโรแมนติก เทพประทาน หรือจริงแท้แค่ไหน
และเมื่อมันจบลง เราก็ควรปล่อยมันไป และเยียวยาตัวเอง

ทีนี้ วกกลับมาก่อน
ในกรณีที่เราไม่รู้ว่าความรักที่เกิดขึ้นมัน "แท้" หรือ "ไม่แท้"
หลายคนก็มักยึดติดกับว่ามันโรแมนติกแค่ไหน มัน "สปาร์ก" อย่างไร

ถ้า "สปาร์ก" ในครั้งนั้นเป็น "สัญญาณลวง" ล่ะ?
ถ้า "รักแรกพบ" ของคุณเป็น false alarm
คุณยังควรที่จะยื้อมันไว้ แม้ว่ามันกำลังจะจบลงหรือไม่

เหมือนเวลาสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้น
คุณวิ่งกระหืดกระหอบลงมาจากอาคาร
ด้วยของสำคัญทุกอย่าง พร้อมขนย้าย

ของมีค่าที่สะสมมาทั้งชีวิต
เอาติดตัวลงมาครั้งเดียว
และพร้อมที่จะเอาทั้งหมดออกไปเริ่มต้นชีวิต

ปรากฏว่าไฟไม่ได้ไหม้ เป็นเพียงคนมือบอนดึงสลักสัญญาณเตือน
คุณจะยืนรออยู่ตรงนั้น หรือขนของกลับขึ้นไปใช้ชีวิตปกติตามเดิม?
กลับไปใช้ชีวิตปกติเถอะนะ ที่ดังขึ้นนั้นเป็นสัญญาณลวง

มันไม่ได้เกิดขึ้น...
มันไม่ได้ยั่งยืน...
มันไม่จริง...

June 19, 2014

ตะกอน

อะไรที่ไม่ละลายน้ำ
มันก็ค้างอยู่ที่ก้นแก้วนั่นแหละ 

นานมาแล้ว
ฉันได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า 'ตะกอน'
มันดูดื้อด้านดีนะ
ไม่สลายตัวเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ
ไม่เปลี่ยนร่าง
ไม่ไปไหน
แค่นอนอยู่นิ่งๆ
อยู่ตรงนั้น
ตรงที่ไม่มีใครสนใจ
ก้นแก้ว
ก้นภาชนะ
ก้นอะไรสักอย่าง 

เมื่อเกือบปีมาแล้ว
ฉันได้รู้จักกับเธอ
เหมือนจะเป็นความบังเอิญ
แต่ก็เหมือนจะเป็นความตั้งใจด้วย
เธอเป็นไม่กี่เหตุผลที่ทำให้ฉันยิ้ม
และเป็นไม่กี่คนที่ฉันโกรธไม่ลง
แม้ตอนนี้เราจะห่างหายกันไป
แต่เธอก็ยังอยู่ตรงนี้
ตรงที่ไม่มีใครสนใจ
หัวใจของฉัน
หัวใจดวงหนึ่ง
หัวใจหรืออะไรสักอย่าง

เพราะเธอไม่เคยละลาย
ไม่เคยหายไปไหน
ไม่เคยมีใครมาแทนที่
เมื่อทุกอย่างสงบ
เธอจะกลับมาเสมอ
เมื่อน้ำนิ่ง
จะพบตะกอนเสมอ
ไม่ต่างกัน
เธอคงเป็นตะกอนที่สวยงามที่สุดสินะ
ไม่ใช่สิ่งปนเปื้อนที่ใจฉันไม่ต้องการ
เมื่อเหล้าตกตะกอนเป็นดอกไม้
หัวใจของฉันก็ตกตะกอนเป็นเธอ

June 15, 2014

แด่จุ๊

นานมาแล้วหนอเคยเขียนถึงจดหมาย ฉบับหนึ่ง
ที่เพื่อนรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เขียนให้ตอนเรียนจบ
ตอนนี้เพื่อนคนนั้นเรียนปริญญาโทจบแล้ว
ที่เดิม คณะเดิม มหาวิทยาลัยเดิม
ที่ที่เมื่อ 10 ปี (กับอีก 8 วัน) ที่แล้ว
ชีวิตของพวกเราได้เริ่มต้นขึ้น
และนี่คือข้อความจากอินสตาแกรมของหนอเอง

--------------------

10 ปีที่แล้ว พวกเราเจอกันที่นี่
ตอนนั้นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต
คือการลงทะเบียนไม่ได้ sec ที่ต้องการ
มาตอนนี้ล่ะ?
มีหลายอย่างเกิดขึ้น
และมีหลายอย่างเปลี่ยนไป
โดยส่วนตัว
เราไม่ค่อยชอบชีวิตป.ตรีนะ
มันดูมีเรื่องผิดพลาดเยอะ
มีแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น
ที่จัดว่าเป็นเรื่องราวดีๆ
จุ๊เป็นหนึ่งในส่วนเล็กๆ นั้น
จดหมายที่จุ๊เคยเขียนให้เรา
ช่วงที่เรียนจบ
เรายังเก็บไว้อย่างดีนะ
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมา
ขอบคุณที่เคยบอกว่า
'ในชีวิตนึงควรมีเพื่อนอย่างหนอคนนึง'
ขอบคุณที่เชื่อในตัวเราเสมอ
ในเวลาที่คนอื่นถอยห่างออกไปหมด
เพราะฉะนั้น อย่าแปลกใจ
ที่วันนี้เราดั้นด้นไปถ่ายรูปด้วย
ถึงจะดูงานเยอะ
ถึงเสาร์อาทิตย์จะไม่ว่าง
ถึงจะอับลม
ถึงจะแดดร้อนเท่าไหร่ก็ตาม
มันเป็นสิ่งที่เราทำให้จุ๊ได้อยู่แล้ว
หนึ่ง - ตอบแทนสำหรับทุกอย่าง
สอง - จุ๊สำคัญ
รักจุ๊นะ <3 ♥

June 13, 2014

รักใครให้ A1

หนอเป็นคนทำอะไรซ้ำๆ เดิม
ไปแต่ที่เดิมๆ
เดินเข้าร้านเดิมๆ
สั่งเมนูเดิมๆ
ไม่เชิงว่าปิดรับสิ่งใหม่
แต่พอใจกับทุกอย่างที่เป็นอยู่
ไม่เว้นแม้แต่เรื่องหนัง
ซึ่งจะมีโรงหนังเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่หนอเลือกไป
เมื่อจะดูหนังแต่ละครั้งวิธีการเลือกที่นั่งก็แตกต่างกันไป
ตามขนาดของโรง และแผนผังที่นั่ง
จะมีก็แต่โรงโรงเดียวที่หนอมักจะเลือกที่นั่งเดิมๆ ทุกครั้ง
ก็คือโรงหนังสกาล่า
ที่ถ้าเกิดไม่มีอะไรผิดพลาด
หนอจะเลือกที่นั่ง A1 ทุกครั้ง
หลายครั้งที่หนอคิดเรื่อยเปื่อย
ขณะนั่งอยู่ในเก้าอี้ตัวนั้น
ด้านหลังสุดของโรง
อยู่ตรงกลางจอ เก้าอี้ริมสุด
ไม่มีที่นั่งขวางหน้า
ยืดขาได้เต็มที่
คิดไปว่าเก้าอี้ตัวนี้เป็นของหนอ
เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง
หนอได้ครอบครองมันคนเดียว
และเป็นอยู่เช่นนั้นซ้ำๆ
A1 เป็นที่ที่สบาย
จนมีอีกหลายครั้ง
ที่หนอคิดเรื่อยเปื่อยต่อไปอีกว่า
วันที่หนอมีแฟน
แล้วเลือกที่จะดูหนังด้วยกันที่สกาล่า
หนอจะสละที่นั่ง A1 ให้แฟนนั่ง
ซึ่งนั่นก็น่าจะแสดงถึงความไม่เห็นแก่ตัวระดับหนึ่งเลยใช่ไหม
ก็ในเมื่อหนอรักที่นั่งของหนอมากขนาดนั้น
... และหนอก็รักแฟนมากขนาดนั้น

วิธีเดิมๆ

เมื่อวันก่อนเป็นวันเกิดรุ่นน้องคนหนึ่ง
ซึ่งหนอเองก็ไม่ได้รู้มาก่อน
แต่บังเอิญมาเห็นโพสต์ใน IG ก่อนนอน
ใต้ภาพบรรยายว่าเป็นวันเกิด
จากนั้นคอมเมนต์จึงเริ่มหลั่งไหลเข้ามา
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ
คอมเมนต์อวยพรวันเกิดในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
มักมีมากจนตอบขอบคุณไม่หวาดไม่ไหวเสมอ
เริ่มจากเฟซบุ๊ก
ซึ่งผู้คนอวยพรกันเพียงเพราะระบบแจ้งเตือน
ไม่ได้จำอะไรได้ขึ้นใจเหมือนในอดีต
หนอกดไลค์ภาพนั้น
แล้วก็ยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งว่า
ควรเขียนคอมเมนต์ด้วยหรือไม่
จะเป็นการเปลืองเนื้อที่
กลายเป็นภาระที่เจ้าตัวต้องมาตอบหรือไม่
เพราะโดยส่วนตัว
หนอเองไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันเกิดเท่าไร
การต้องมาตามไล่ตอบคำอวยพร
จึงเป็นสิ่งที่ฝืนธรรมชาติอยู่เล็กน้อย
แต่ก็ต้องทำ
เพื่อตอบแทนที่ทุกคนอุตส่าห์สละเวลามาเขียนให้
แต่สุดท้าย
หนอก็สรุปกับตัวเองว่า
เราไม่ควรเอามาตรฐานความไม่ใส่ใจวันเกิดของเรา
ไปยัดเยียดให้กับคนอื่น
และควรอวยพรวันเกิดทุกคนที่เราอยากให้ความสำคัญ
แม้ว่าสุดท้ายแล้ว ข้อความดังกล่าวจะกลายเป็นภาระ
ให้เจ้าของวันเกิดต้องมาตอบก็ตาม
หนอเลือกส่ง SMS ไปสั้นๆ
ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ได้ใช้กับใครมานานแล้ว
บางทีคนเราก็ต้องการความเรียบง่ายแค่นี้จริงๆ
ไม่จำเป็นต้องมีสมาร์ทโฟน
เพื่อสื่อสารกันด้วยสติ๊กเกอร์และอีโมติคอนมากมาย
แค่คำพูดไม่กี่คำ ผ่านแป้นพิมพ์ไม่กี่ปุ่ม
ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
หนอปิดมือถือหลังจากนั้นแล้วเข้านอนทันที
หวังแต่ว่าการอวยพรด้วยวิธีเชยๆ จะมีคุณค่าพอ
ในยุคสมัยที่ทุกคนต้องการให้ทุกอย่างผ่านระบบโซเชียล
เมื่อตื่นนอนตอนเช้า
เปิดมือถือดูจึงพบว่า
มี SMS ขอบคุณกลับมาสั้นๆ
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับจากใครมานานแล้ว
วิธีการเดิมๆ ยังคงสื่อสารได้ครบถ้วนสินะ
... แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว