August 28, 2013

วันที่ไม่รู้จบ

มันจะมีวันอย่างนั้นอยู่
วันที่เรารีบที่สุด
แล้วหาแท็กซี่ไม่ได้
วันที่เราลืมโทรศัพท์มือถือ
แล้วมีคนโทรหามากมาย
วันที่รองเท้ากัดเดินลำบาก
แล้วฝนยังมาตกให้ถนนเฉอะแฉะ
วันอย่างนั้น... ที่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นซ้ำๆ
วันที่เราไม่ได้ตั้งรับ
วันที่เราอ่อนแอ

หลายครั้งที่เรารู้สึกว่า
วันที่ไม่มีอะไร
ก็ไม่มีอะไรเสียเลย
และวันที่จะมีอะไรขึ้นมา
ก็จะมีอะไรขึ้นมาไม่หยุดหย่อน
เหมือนมีการยิง ประตูปลดล็อค
พอมีหนึ่ง ก็มีสอง สาม สี่
ตามมากระหน่ำซ้ำเติม
เมนส์มา นายด่า ขาแพลง ของหาย
ฝนตก ลืมร่ม โบกรถเมล์ไม่จอด อะไรก็ว่าไป

วันที่รู้สึกโชคร้ายซ้ำๆ
วันที่ไม่รู้จบ
เราทำอะไรได้บ้าง
เราเรียนรู้อะไรจากมันได้บ้าง
คำตอบที่มีคือ
เราทำอะไรไม่ได้
และต้องเรียนรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นอีก
เราแค่ต้องซ่อมแซมตัวเอง
ให้กลับมาปกติที่สุด
ให้เร็วที่สุด

แท็กซี่ไม่มาก็หาจนได้
Missed Call ทั้งหลายก็ไล่โทรกลับ
รองเท้ากัดก็ใส่ยา
เดินลุยน้ำมาก็ถึงบ้านล้างเท้า
เมนส์มาก็พยายามทำใจให้เย็นเป็นพิเศษ
นายด่าก็ฟังไว้แล้วก็ไม่เก็บมาเป็นอารมณ์
ขาแพลงก็หาหมอหาอะไรไป รักษาให้ถูก
ของหายถ้าหาไม่เจอก็ปลง บ่นแล้วปลง
ลืมร่มก็ทนเปียก
รถเมล์ไม่จอดก็รอคันใหม่

สุดท้าย...
ไม่ว่าเราจะตั้งรับทันหรือไม่
จะอ่อนแออยู่หรือเปล่า
เราก็ต้องประคองตัวเอง
ออกมาจากสถานการณ์แย่ๆ นั้นให้ได้
ด้วยตัวของเราเอง
ไม่ว่าตอนหมดวัน
เราจะสะบักสะบอมแค่ไหน
แต่อย่างไรเสีย หนึ่งวันก็ต้องหมดลง
และพรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่

วันที่เราคิดว่าไม่รู้จบ
ความจริงก็ รู้จบเหมือนกันนะ
เราแค่ต้องผ่านมันไปให้ได้
และพยายามมีพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิม

August 12, 2013

วันที่แม่ร้องไห้

มันจะมีวันประเภทนั้นอยู่
วันรวมญาติ
วันรวมรุ่น
วันที่เราจะรวมหัวกันพูดเรื่องเก่าๆ
เรื่องที่มันเคยเกิดขึ้น
เรื่องที่บางคนเท่านั้นที่จำได้ว่ามันเกิดขึ้น
เรื่องที่บางคนควรจะได้ยินว่ามันเกิดขึ้น
วันประเภทนั้น...

นี่ก็คงเป็นหนึ่งในวันประเภทนั้น
แต่ไม่ใช่วันรวมญาติ
ไม่ใช่วันรวมรุ่น
เป็นแค่วันที่แม่อยากจะพูดเรื่องเก่าๆ
เพราะมันเคยเกิดขึ้น
เรื่องที่แม่เท่านั้นที่จำได้ว่ามันเกิดขึ้น
และลูกทั้งสองควรจะได้ยินว่ามันเกิดขึ้น
วันประเภทนั้น...

ต้องเล่าก่อนว่า
แม่มีโหน่ง (พี่ชายหนอ) ตอนอายุ 31 ปี
ตอนนั้นได้คุณยายมาเป็นคนช่วยเลี้ยง
จากนั้นอีก 7 ปี
แม่ถึงได้มีหนอมาอยู่ให้วุ่นวาย
ตอนนั้นคุณยายบอกว่าจะไม่ช่วยเลี้ยง
การเลี้ยงเด็กเหนื่อยเกินไป
ซึ่งมันก็จริง ก็เข้าใจได้

แม่เล่าอยู่เสมอว่า
หนอเป็นคนที่มีเรื่องบ่อยที่สุด
ในที่นี้หมายถึงต้องเปลี่ยนพี่เลี้ยงบ่อยที่สุด
ด้วยความที่คนช่วยเลี้ยงดีๆ หายากเหลือเกิน
น่าแปลกที่คนมาทำงานเลี้ยงเด็กไม่รักเด็ก
นี่เป็นปัญหามาตั้งแต่สมัยหนอแล้วล่ะ
พวกนี้ลับหลังพ่อแม่ดุบ้างตะคอกบ้าง
ควร (แอบ) ติดตามอย่างใกล้ชิด

แต่เรื่องที่เล่าครั้งนี้
ไม่เชิงเป็นเรื่องพี่เลี้ยง
เพราะไม่ใช่คนที่รับเข้ามาอยู่ด้วยในบ้าน
แต่เป็นเรื่องสถานรับเลี้ยงเด็ก
ที่สำคัญคือเรื่องที่เล่าครั้งนี้
ไม่ใช่เรื่องที่หนอเคยได้ยินมาก่อน
เหตุเกิดตอนหนออยู่ชั้นเตรียมอนุบาล
ที่สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่งในซอยราชครู

เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น
มีระดับความน่าเล่นแตกต่างกันไป
สิ่งที่คนจำนวนมากอยากเล่น
ก็ยากที่เราจะได้เล่น
หนอเป็นคนกลัวความสูงมาแต่ไหนแต่ไร
เครื่องปีนป่ายไม่เคยเป็นสิ่งที่อยากเล่น
หนอจำได้ว่าตัวเองชอบนั่งชิงช้า
แต่จำไม่ได้ว่าเรื่องที่ว่านี้เคยเกิดขึ้น

แม่บอกว่าวันหนึ่งหนอกลับบ้านมา
บอกกับแม่ว่าอยากนั่งชิงช้าบ้าง
ที่ ___ (ชื่อสถานรับเลี้ยงเด็ก) มีชิงช้า
วันรุ่งขึ้นแม่ก็ไปบอกกับคนดูแล
ให้ช่วยพาหนอไปนั่งชิงช้าเล่นที
หาโอกาสตอนที่เด็กซาๆ ก็ได้
ไม่ถึงกับต้องไปจดจ่อ
รอคิวชิงช้าอย่างมุ่งมั่นขนาดนั้น

แล้ววันหนึ่งที่ ___ นั้นก็ผ่านไปอีกวัน
แม่มารับเร็วกว่าปกตินิดหน่อย
เลยไปยืนดูหนอที่สนามเด็กเล่น
แม่บอกว่า
เห็นหนอนั่งตัวสั่น
อยู่บนชิงช้าคนเดียว
เท้าไม่ถึงพื้น
และไม่มีผู้ใหญ่อยู่ใกล้ๆ เลย

วินาทีนั้น... แม่ร้องไห้
แม่ไม่เข้าใจว่าทำไม
ลูกสาวอายุไม่กี่ขวบของเธอ
ต้องมานั่งตัวสั่นด้วยความกลัว
อยู่บนเครื่องเล่นที่อยากเล่นหนักหนา
และไม่เข้าใจว่าทำไม
จึงไม่มีใครที่มีความรับผิดชอบพอ
จะมาดูแลเด็กใกล้ๆ บริเวณนั้นเลย

หลังจากวันนั้น
พวกเราก็ไม่ได้กลับไปที่ ___ อีก
หลังจากวันนั้น... วันที่แม่ร้องไห้
หนอนั่งฟังเรื่องเล่านั้นเงียบๆ
ไม่รู้จะพูดอะไรได้
ไม่รู้จะคิดอะไรต่อ
ที่รู้คือต้องไม่มีวันนั้นอีก
วัน... ที่แม่ร้องไห้