เอพิคเตตัส (Epictetus) นักปรัชญาชาวกรีก
เคยกล่าวไว้ว่า
'หากท่านหวังที่จะเป็นนักเขียน ก็จงเริ่มเขียน'
(If you wish to be a writer, write.)
บางทีกุญแจที่จะไขประตูไปสู่เส้นทางต่างๆ
สิ่งต่างๆ ในชีวิต
อาจต้องเริ่มต้นเช่นนี้ก็เป็นได้
แค่เริ่มสร้าง เริ่มลงมือทำ
หนอแทบไม่ได้เขียนบล๊อกเลย
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
แม้แต่ช่วง 1 เดือนที่เพิ่งผ่านไปนี้
ทั้งที่ชีวิตค่อนข้างจะว่างทีเดียว
15 สิงหาคม เป็นวันที่หนอทำข่าว
ให้วอยซ์ทีวีเป็นวันสุดท้าย
หลังจากที่ทำงานมา 1 ปี กับอีก 353 วัน
(หรือก็คือเกือบจะ 2 ปีนั่นแล)
เหตุผลหลักของการลาออก
เป็นเรื่องสุขภาพร่างกาย
โรคนอนไม่หลับเริ่มกระทบการทำงาน
การตื่นตีสามเข้างานตีสี่เริ่มไม่ใช่เรื่องง่าย
แน่นอนว่าสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์
ย่อมทำให้สภาพจิตใจทรุดลงตามไปด้วย
ประกอบกับเหตุผลข้างเคียงอื่นๆ
ที่มนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งจะมีได้
หนอไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถ
ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคน 100 เต็ม 100
มั่นใจอย่างมากสุดก็ 80 เต็ม 100
และนั่นคือศักยภาพทั้งหมดที่มี
แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า
ยิ่งหนอทำงานไปเท่าไร
ยิ่งสัมผัสได้ว่าตำแหน่งที่ทำอยู่
ต้องการจากหนอแค่ 40 เต็ม 100
เท่ากับว่าไม่ว่าจะทำเต็มที่เท่าไร
ก็มีพื้นที่ให้เพียงเท่านี้
ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้
ไม่กว้างไม่แคบไปกว่านี้
ลองนึกภาพหนอเป็นคนอ้วน
ที่ต้องนั่งเก้าอี้ตัวเล็กๆ
พยายามเบียดตัวเองลงไป
พยายามนั่งให้สบาย
แต่คนเราจะสบายในที่แบบนั้นได้เหรอ
และถ้าได้ จะได้นานสักเท่าไรกัน?
และแล้ว ขนาดใจหนอก็เริ่มเล็กลงเรื่อยๆ
และความนับถือตัวเองก็ลดลงด้วยเช่นกัน
มิถุนายน-กรกฎาคมเป็นช่วงที่ทุกข์ทรมาน
หนอใช้คำนี้ได้เลย 'ทุกข์ทรมาน'
เพราะพอใจมันไม่สู้เสียแล้ว
จะให้ทำอะไรมันก็ไม่ไหว
หนอจำได้ว่า
Timehop เคยเด้งข้อความเก่าขึ้นมา
ที่หนอตอบใครสักคนว่า
อาชีพนักข่าวมีเสน่ห์ตรงไหน
หนอตอบไปว่า
'ไม่ได้ดึงดูดพอให้ตกหลุมรัก
แต่ดึงดูดพอให้อยากตื่นไปทำงานทุกวัน'
ซึ่งถึงวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
เราไม่ได้ทำงานกับแค่ตัวงานอย่างเดียว
แต่เราทำงานกับทั้งองค์กร
คนใน คนนอก ระบบต่างๆ
เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ
เราไม่ได้ตื่นมาเจอข่าว แล้วก็แปลๆๆ
แต่เรามีอินเทอร์เน็ตล่ม ปรินเตอร์เสีย
ภาพข่าวไม่มี ตัดต่อไม่ได้
เวลาขาด เวลาเกิน และอีกมากมาย
ความจริงแล้วทั้งหมดนี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ถ้าไม่หมดใจ เป็นใครก็ทำต่อได้
แต่เพราะหนอไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว
ทุกอย่างในทุกวันจึงเป็นฝันร้ายที่ไม่จบไม่สิ้น
ปลายเดือนกรกฎาคม หนอดีขึ้นมาก
ส่วนหนึ่งเพราะไปเข้าอบรม
'เข็มทิศชีวิต' (กับครูอ้อย - ฐิตินาถ ณ พัทลุง)
ซึ่งหนอขอไม่กล่าวถึงมากในบล๊อกนี้
ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อในการอบรมแบบที่ว่า
และไม่ใช่ทุกคนที่เลือกแก้ไขปัญหาด้วยวิธีนี้
แต่เอาเถอะ หนอแค่จะบอกว่าหนอรู้สึกดีขึ้น
และการทำงานในเดือนสุดท้ายก็ราบรื่นมาก
ทีนี้ หนอออกจากงานแล้วมาทำอะไรล่ะ?
อย่างแรกเลย 'พัก'
หนอไปรักษาอาการเจ็บไหล่ซ้ายที่
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล
จากนั้นอาการนอนไม่หลับก็เริ่มทุเลา
ส่วนหนึ่งคงเพราะไม่กดดันตัวเอง
ให้ต้องเข้านอนเร็ว หลับเร็ว
แม้จะกำเริบบ้าง ก็ไม่ค่อยหนักหนาเท่าไร
นอกจากนั้น ก็เอาตำราเกาหลีมาลองเรียบเรียง
หาวิธีสอนที่ง่ายๆ ใช้เวลาน้อยๆ
แล้วบอกเพื่อนที่มีสถาบัน มีที่ทาง
แล้วบอกเพื่อนที่มีสถาบัน มีที่ทาง
ว่าถ้ามีคนอยากเรียน หนอสอนให้ได้
อีกอย่างก็คือ ได้ลองสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง
ซึ่งไม่ได้ผลิตอะไรใหญ่โตหรอก
ทำผลิตภัณฑ์เดียวก่อน
ตอนนี้กำลังอยู่ในกระบวนการผลิต
หลายคนเคยบอกว่า
การจะทำอะไรใหม่ๆ ให้สำเร็จ
ไม่ควรทิ้งงานที่เก่า
ก่อนจะเห็นเค้าลางความสำเร็จนั้น
หนอเห็นด้วย
และเห็นว่าในหลายกรณีเป็นเช่นนั้น
แต่หนอทำไม่ได้จริงๆ
เพราะงานที่หนอทำดูจะดึงทุกอย่างไปหมด
หนอกลายเป็นคนที่คิดถึงแต่ข่าว
ตลอดเวลาที่ลืมตาตื่นในแต่ละวัน
ความคิดสร้างสรรค์เริ่มหดหาย
สำนวนการเขียนเริ่มเป็นทางการเกินไป
โทรทัศน์ Prime Time กลายเป็นเรื่องต้องห้าม
เพราะต้องเข้านอนเร็ว เพื่อตื่นทำข่าวเช้า
ซึ่งแน่นอนว่า การนัดเจอเพื่อนฝูง
ก็ต้องเป็นเย็นวันที่รุ่งขึ้นไม่ต้องดิ้นรนตื่นเร็วด้วย
ชีวิตแบบนี้ดำเนินไป
ท่ามกลางสัญญาณเตือนว่า
หน้าที่การงานหนอจะไม่มีทางก้าวหน้า
กว่าที่เป็นอยู่นี้เด็ดขาด
ก็นั่นแลนะ... หนอตัวอ้วนๆ ที่นั่งเก้าอี้เล็กๆ
เมื่อถึงวันที่เก้าอี้มันถูเราจนเป็นแผล
เราจะทนนั่ง ไม่ขยับเขยื้อนตัว อยู่ต่อไป
หรือจะเปลี่ยนเก้าอี้ หาเอาที่พอเหมาะพอดี
สุดท้ายแล้ว หนอก็เลือกแบบที่เล่ามานี่แล
เลือกที่จะเปลี่ยนเก้าอี้
เลือกที่จะออกมาทำอะไรใหม่ๆ
เลือกที่จะสร้างบางอย่างที่เป็นตัวเราจริงๆ
หลังจากนี้ ทุกอย่างที่หนอทำ
ทั้งสอนภาษา (อังกฤษ-เกาหลี) และทำแบรนด์
จะเป็นสิ่งที่หนอสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง
อย่างสุดความสามารถเสมอ
ณ วินาทีนี้
ถึงแม้มันจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างชัดเจน
แต่หนอก็ภูมิใจแล้วที่ได้
'กล้า' ที่จะลงมือทำ
---------
และทั้งหมดนั่นคือ
'1 เดือนที่ผ่านไป' ของหนอ
แล้ว 1 เดือนของคุณล่ะ?
และทั้งหมดนั่นคือ
'1 เดือนที่ผ่านไป' ของหนอ
แล้ว 1 เดือนของคุณล่ะ?
If you wish to be a writer, write.