January 13, 2016

PR เด็กเล่น

นี่จะบ่นล้วนๆ ค่ะ
ไม่มีวาทศิลป์ใดๆ ทั้งสิ้น

.........

สมัยนี้ทุกอย่างดูจะต้องใช้การพีอาร์ไปหมด
เรื่องดีคือวงการพีอาร์ของไทยก็พัฒนาไปด้วย
ในฐานะ(อดีต)นักข่าวคนหนึ่ง
ต้องยอมรับเลยว่างานพีอาร์สำคัญจริงๆ

งานใหญ่งานเล็ก
ถ้าทีมงานจัดแจงได้ดี
เรา ในฐานะนักข่าวที่ไปทำข่าว
ก็จะรู้สึกดีและนึกชื่นชมอยู่ในใจ

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกงานจะออกมาดี
และแน่นอนว่าผู้ที่ต้องรับหน้า
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น
ก็คือทีมพีอาร์นั่นเอง

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
Social Influencer คนหนึ่ง
ชวนหนอไปดูหนังรอบสื่อมวลชน
ซึ่งเป็นเรื่องที่รอดูอยู่พอดี ก็เลยตกลงไป

เราไปดูรอบพิเศษกันเป็นกลุ่มอยู่หลายครั้งค่ะ
การนัดแนะเวลาสถานที่จึงแทบไม่ต้องพูดอะไร
ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบซ้ำเดิม ที่เดิมๆ รูทีนเดิมๆ
หลังหนังจบก็ทวีตความคิดเห็น อะไรก็ว่าไป

ทีนี้ เรื่องมันมีอยู่ว่า
พอนัดเจอกัน
น้องคนที่ชวนพูดขึ้นว่า
"เขายังไม่ให้ตั๋วอะพี่"

ตอนนั้นเริ่มประหลาดใจนิดหน่อย
"... เขาบอกให้มาใกล้ๆ สองทุ่ม
ตอนนี้ยังไม่มีตั๋วที่นั่งดีๆ"
ฟังอย่างนี้ชักจะประหลาดใจมากขึ้นแล้ว

พอใกล้สองทุ่ม
เราสองคนก็เดินไปรับตั๋วตามนั้น
พบว่ามีคนมารอหลายคน
ส่วนมากดูเป็นนักเรียนนักศึกษา

ขณะที่รอก็ได้ข่าวว่าโรงที่ไปนี้
มีหนังอีกเรื่องมาเปิดตัว
เป็นหนังไทยฟอร์มเล็ก
เชิญทุกคนเข้าร่วมแบบไม่จำกัด

รอไปนานๆ เข้า
น้องที่ชวนก็เริ่มเปรยว่า
"เราไปดูอีกเรื่องแทนไหม
ท่าไม่ดีแล้วว่ะพี่"

อย่างแรกเลยคือ
หนังไทยที่ว่าไม่ใช่แนวหนอจริงๆ
และอย่างที่สองคือ
หนอต้องการคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น

สักพักมีหนึ่งในทีมงานเดินมา
คุยกับคนที่มาร่วมงานในเชิงหยอกล้อ
(ด้วยความสนิมสนม)
"รอแป๊บนะ ตั๋วล้น 40 ที่ ไม่รู้จะยังไง"

อ้าว... มึง คือคำที่ผุดขึ้นในหัว
ตั๋วล้น 40 ที่ คืออะไร
ในเมื่อการเชิญคนมางาน
ต้องมีการประมาณจำนวนไว้บ้างแล้ว

แล้วการหยอกล้ออย่างสนิทสนม
โดยที่ไม่มีการแจ้งโซลูชั่นคืออะไร
หรือความจริงแล้วทีมงานมองคนมาดู
เป็น "คนที่มาขอดูหนังฟรี" มาโดยตลอด

ได้ดูก็เป็นบุญไป
ไม่ได้ดู ทีมงานก็ไม่เสียอะไร
และคนที่มาแล้วไม่ได้ดู
ก็ไม่ควรที่จะต้องรู้สึกอะไรด้วย... ใช่ไหม

หรือนี่คืองานเล็กๆ ที่ค่ายหนังไม่ได้ใส่ใจ
แค่อยากให้คนมาดู แล้วไปบอกต่อ
ว่าหนังดียังไง น่าดูยังไงบ้าง
ไม่ต้องดูแลหรือชี้แจงอะไรมาก

จนสองทุ่มสิบห้า
ล่วงจากกำหนดมาพอสมควร
จนน้องคนที่ชวนหนอเลือกไปดูหนังไทยแล้ว
เพราะจะได้ไม่มาเสียเที่ยว

แต่หนอก็ยังไม่ยอมแฮะ
อยากรู้ว่าทีมงานจะแก้ไขยังไงต่อ
หนึ่งในน้องๆ ที่รออยู่ด้วยกัน
และทำอาชีพพีอาร์ก็คิดเหมือนหนอ

ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าปัญหานี้ไม่ได้แก้ยาก
และถ้าแก้ไม่ได้ ก็ชี้แจงได้ไม่ยาก
ไม่ใช่มาโกหกกันว่า "ไม่มีตั๋วดีๆ"
หรือคุยทีเล่นทีจริงไปทั่วว่า "ตั๋วล้น"

หลังจากที่คนมีตั๋วทยอยเข้าโรงจนหมด
คิวของคนรอก็เริ่มขยับ
ทีมงานดูเหมือนอธิบายอะไรสักอย่าง
แล้วคนที่ฟังก็ลงชื่อในกระดาษบนโต๊ะ

พอถึงคิวหนอถึงได้รู้ว่า
ทีมงานถามชื่อที่อยู่
เพื่อที่จะส่งเวาเชอร์ไปให้ (ให้กลับมาดูอีกรอบ)
คือให้ดูเรื่องนี้ฟรี ทดแทนสิทธิ์ที่เสียไปนั่นเอง

หนออยากถามว่า
สิ่งที่เสียไปจากกรณีนี้
คือการได้ดูหนังฟรีอย่างเดียวรึเปล่า
และทีมงานมองคนที่มาร่วมงานอย่างไรแน่

"คูปองดูหนังฟรี
มันแทนค่าเสียโอกาสครั้งนี้ไม่ได้นะคุณ
คนเขาได้รับจดหมายเชิญ อีเมลเชิญ
นี่คุณไม่อธิบายอะไรเลยได้ยังไง"

คุณทีมงานผู้หญิงคนหนึ่งเริ่มเบะปาก
แต่หนอก็พูดต่ออยู่ดี
"แล้วนี่ไม่ใช่รอบสื่อเหรอคะ
สื่อที่มาเขาจะไปพูดต่อยังไงก็ได้นะ"

ว่าแล้วคุณผู้ชายตรงโต๊ะนั้นก็หยิบ
เศษตั๋วเดี่ยวๆ ยับๆ ขึ้นมา
แล้วบอกว่านี่เป็นที่นั่งแถวหน้า
อาจจะดูไม่ถนัด จะรับไหม

"มันเกินเวลามาขนาดนี้
คุณยังจะให้เข้าอีกเหรอคะ"
คือจุดนี้ดูไม่ดูไม่สำคัญแล้วล่ะ
หนออยากรู้คำอธิบายมากกว่า

(แต่ก็เงียบนะ ไม่มีคำอธิบายใดๆ มากกว่านี้)

สรุปว่าพวกเราได้บัตรที่ที่นั่งไม่ติดกัน
และแถวหน้ามากๆ มา 3 ใบ
เดินเข้าโรงกันอย่างรีบๆ งงๆ
(ซึ่งเท่ากับว่าถ้าไม่ด่าก็ไม่ได้ดู - รึเปล่า?)

นอกจากการเบะปาก
และการขอที่อยู่แล้ว
หนอหาสาระอื่นๆ
จากสิ่งที่ทีมงานพูดไม่ได้เลย

และภาวะ "คนล้น" ที่ว่า...


... คือแบบนี้ค่ะ

นี่ยังไม่นับว่ามีหลายคนนั่งหลับ
(และกรน)
ระหว่างดูหนังด้วยนะคะ
เลยไม่แน่ใจว่านี่เป็นรอบสื่อหรือรอบอะไรแน่

ที่ติดใจมากที่สุดคือทีมงาน
ที่แก้ปัญหาได้ย่ำแย่ที่สุด
เหมือนพีอาร์ของปลอม
... ของเด็กเล่น

หรือเขาจะมองเราเป็นสื่อปลอม
สื่อเด็กเล่น
สื่อมาขอดูหนังฟรีก็ไม่รู้นะ
(แต่พอทวีตรีวิวไปนี่รีบรีทวีตใหญ่เลย)

เรื่องนี้จะสรุปยังไงดีนะ
หนออยากรู้จริงๆ ว่า
ค่ายหนังทุกวันนี้ให้ความสำคัญกับอะไร
และมองงาน(ดูฟรี)แบบนี้ว่ามีค่าแค่ไหน

ยิ่งไปกว่านั้น
ค่ายหนังและทีมงาน
หรือทีมพีอาร์ที่มารับหน้า
มองกลุ่มคนที่เชิญมาเป็นอะไร

มันไม่ผิดหรอกค่ะ
ที่จะตื่นมา ไปทำงาน
และใช้ชีวิตให้หมดไปวันๆ
แต่มันผิด ถ้างานคุณออกมาต่ำกว่ามาตรฐาน

น่าเสียดาย
ที่หนังดี ตัวเก็งชิงรางวัลใหญ่
ต้องมาพัวพันกับ
อีเวนต์ที่ไม่น่าจดจำแบบนี้

.........

ไม่คาดหวังให้ทำงานกันแบบได้ A หรอกค่ะ
เอาแค่เสมอ Mean ก็พอ

ป.ล. "ขอโทษ" สักคำก็ไม่มีนะ